ชายแดนไทยกัมพูชา

คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา พร้อมด้วยคณะอนุกรรมาธิการด้านมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และประเพณี มอบธงไชยให้ทหาร ไว้ป้องกันตน พร้อมข้าวสาร อาหารแห้ง บ่ายของวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ที่อุทยานแห่งชาติผามออีแดง จุดชมวิวอันดับ 1 ของจังหวัดศรีสะเกษ ที่สามารถมองเห็นทะเลป่าภูผาหมอก พร้อมกับชมตะวันขึ้นก่อนใครใน 3 แผ่นดิน คือเหนือแผ่นดินกัมพูชา มองสุดลูกตา เห็นแผ่นดินลาว ขณะยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทย ซึ่งวันนี้ได้มี นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานคณะกรรมาธิการ การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะ และวัฒนธรรม คณะวุฒิสภาฯ โดยมี นายนิวัฒน์ รุ้งแก้ว สว.ศรีสะเกษ, นายทิวา รุ้งแก้ว นายกพุทธสมาคมจังหวัดศรีสะเกษ ประธานเครือข่ายโรงเรียนหมู่บ้านศีล 5 ตามรอยพ่ออย่างพอเพียง พร้อมด้วยคณะ โดยมีนางสาว ชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ…

ผลกระทบจากแรงงานกัมพูชา หนีกลับบ้าน จากหวั่นเหตุปะทะ และหลังคลิปนายกคุยฮุนเซ็น โล้ง ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ เรียกแรงงานไทยจากจันทบุรี ทดแทน เพราะต้องเร่งส่งจีน และภูเขาที่สวย สะตาโสมเป็นของไทย วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ที่ จังหวัดศรีสะเกษ ผลกระทบตามแนวชายแดน ระหว่างไทย – กัมพูชา ขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่คนไทยทั้งประเทศ ได้รับฟังคลิบเสียงที่พูดคุยกันระหว่าง นายกรัฐมนตรีของไทย กับนายฮุนเซ็น ประธานสภาฯ ของกัมพูชา โดยวลีเด็ดก็คือ “จะเอาอะไรหลานก็จะจัดให้” กับการพูดว่า “แม่ทัพภาคที่2 อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเรา” ทำให้ประชาชนคนไทยหมดความเชื่อมั่นกับการแก้ปัญหา ข้อพิพาทไทย – กัมพูชา โดยเฉพาะกับแรงงานคนกัมพูชา กับชาวสวนทุเรียนในเขตอำเภอกันทรลักษ์ ที่กำลังเร่งเก็บผลผลิต เพื่อส่งออกไปขายที่ประเทศจีน ที่โล้งได้มาตั้งจุดรับซื้อขึ้นตู้คอนเท็นเนอร์ ถึงที่ แต่วันนี้แรงงานกัมพูชา ที่เคยเป็นมือตัดทุกปี โล้งได้ให้กลับประเทศไปหมดแล้ว ซึ่งโล้งได้ประสานงานกับแรงงานไทย ที่เป็นมือตัดจากจังหวัดจันทบุรี จากจังหวัดตราด ยกทีมมาตัดกันถึงสวนที่ศรีสะเกษ แถมมีเทคนิคพิเศษ ตัดให้มีเสียงเหมือนปืนแก๊ป ไล่ชาวกัมพูชา เพราะวันนี้มาตัดที่ชายแดนไทย –…

แรงงานกัมพูชาในศรีสะเกษ แห่เดินทางกลับบ้านผ่านช่องสะงำ โดยชี้แจงว่า พ่อแม่เป็นห่วง ขอให้กลับก่อน หากเหตุการณ์สงบค่อยมาใหม่ แม้ว่ากลับบ้านก็ไม่มีงานทำ หลายคนมาทำงานเกิน 10 ปี ค่าแรงวันละ 450.-บาท วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ จุดผ่านแดนถาวร ด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกำหนดของฝั่งประเทศไทย ด่านเปิดเวลา 08.00 – 15.00 น. ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ยังกำหนดเดิมคือเปิด เวลา 09.00 – 15.00 น. ในขณะที่หน้าด่านฝั่งไทย ได้มีแรงงานกัมพูชา คนหนุ่มสาว กว่า 50 คน ได้นั่งรถยนต์มา 6 คัน มารอที่หน้าด่าน พร้อมกับข้าวของมากมาย ทั้งพัดลม ตู้เย็น กระเป๋าเสื้อผ้า สัมภาระอีกจำนวนมาก เหมือนการอพยพใหญ่กลับบ้าน แล้วคิดที่จะไม่กลับมาอีกเลย ซึ่งเบื้องต้นที่เข้าไปพูดคุย กับแรงงานกัมพูชา คนหนุ่มสาวหลายคน เข้ามาทำงานที่จังหวัดศรีสะเกษ…

สมาชิกวุฒิสภา สว.อีสานใต้ พบประชาชน ชาวหมู่บ้านภูมิชรอล ตำบลเสาธงชัย จังหวัดศรีสะเกษ จุดพื้นที่เสี่ยง ภัยสงคราม ไทย – กัมพูชา เชิงเขาพระวิหาร เพื่อทราบสถานการณ์ชายแดน ปัญหา แนวทางแก้ไข ความต้องการ วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่ ศาลาประชาคมบ้านภูมิชรอล ( อ่าน ภูม – สะ – รอน ) ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสุริยา บุตรจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, จ่าสิบเอก สมควร สิงห์คำ นายอำเภอกันทรลักษ์, นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงมะลู, ตำรวจตระเวนชายแดน, เจ้าที่ทหารกองกำลังสุรนารี ฉก.1, ชรบ. อส.ปกครองอำเภอกันทรลักษ์ กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ตำบลเสาธงชัย พร้อมด้วยพี่น้องประชาชน…

จุดผ่านแดนด่านช่องสะงำ เปลี่ยนเวลาเปิด 08.00 ปิด 15.00 น. ขณะที่กัมพูชายังเล่นแง่เปิด 09.00 ปิด 15.00 น. วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ เท่านั้น เช้าของวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ก่อนเวลา 08.00 น.ที่มีกำหนดในการเปิดด่านใหม่ ของจุดผ่านแดนไทย – กัมพูชา ทั่วประเทศ ที่จุดผ่านแดนถาวรด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังวัดศรีสะเกษ ได้มีพ่อค้า มีประชาชนชาวกัมพูชา ที่มาหาหมอในฝั่งประเทศไทย ที่ตกค้างอยู่หน้าด่านตั้งแต่เมื่อวาน ที่ปิดด่านกะทันหัน ทำให้ชาวกัมพูชา ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ต้องนอนพักรอที่หน้าด้านกันตั้งแต่เช้า เพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านกัมพูชา โดยฝั่งไทย ได้มีกองกำลังทหาร ฉก.3 กองกำลังสุรนารี, ปกครองอำเภอภูสิงห์, ศุลกากรภูสิงห์, ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจจาก สภ.ภูสิงห์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด่าน ตม.ได้เดินทางมาเปิดกุญแจ ในเวลา 08.00 น. ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีการเปิด มีเพียงการเดินไปมาเคลื่อนไหวหน้าประตูเหล็กของกัมพูชา…

ตามคำสั่งด่วนของแม่ทัพภาคที่2 เปลี่ยนแปลงการเปิด- ปิดด่านของไทย ที่เชื่อมโยงกับกัมพูชาใหม่ โดยที่ด่านชายแดนช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ กำหนดเปิดวันจันทร์-วันพุธ และวันศุกร์ ส่งผลกระทบวันนี้ที่เคยเป็นวันตลาดนัดใหญ่ไทยกัมพูชา ค้าขายคึกคัก กลับเงียบสนิททันที คนกัมพูชา ผ่าตัดสมองเสร็จจะกลับ ต้องรอพรุ่งนี้ เช้าของวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ภาพเก่าในความจำ ที่ทุกวันอาทิตย์ ที่ด่านชายแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ จะเป็นการเปิดด่านชายแดนเชื่อมโยง พ่อค้า แม่ค้า ประชาชน นักท่องเที่ยวไทย และกัมพูชา ที่จะรอคอยในการมาซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้ากันอย่างคึกคัก เพราะจากด่านช่องสะงำตรงจุดนี้ เมื่อเดินทางไปสู่นครวัต นครธม ที่จังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา มีระยะทางเพียง 135 กิโลเมตร ทั้งการไปเที่ยว การค้าขายสินค้า ที่จะให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ที่ผ่านมาจะมีการส่งออกจำนวนมาก จะสะดวกที่สุด ซึ่งหลังจากที่มีปัญหาการปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชา กับทหารไทย ที่ช่องบก ส่งผลให้ประชาชนทางฝั่งไทย เรียกร้องให้ทหารใช้มาตรการรุนแรงในการตอบโต้กัมพูชา ทำให้ล่าสุดเมื่อคืนของวันที่ 7 มิถุนายน 2568 พลโท บุญสิน…

นายด่าน แจงปม กัมพูชาซื้อเกลือไทยไปให้ทหารกัมพูชาในป่า กว่า 2 พันตัน เบื้องต้นไม่จริง วอนอย่าปันข่าวให้ชาวบ้านแตกตื่น จนเป็นปัญหาระหว่างประเทศอีก จากกรณีที่มีข่าวออกมาว่าชาวกัมพูชาแห่มาซื้อเกลือที่ฝั่งไทย ทางด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมาซื้อไปกว่า 2,800 กว่าต้น เพื่อเอาไปให้ทหารกัมพูชาดำรงชีวิตในป่า ล่าสุด นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลการกรช่องสะงำ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องดังกล่าวที่ออกข่าวไปว่ามีการส่งออกเกลือถึง 2,800 กว่าต้น ให้กับทางกัมพูชานั้นไม่เป็นความจริง ข่าวที่นำเสนอไปนั้นเป็นภาพรวมทั้งเดือน พฤษภาคม 68 ไม่ใช่เป็นวันเดียว ซึ่งภาพรวมปกติไม่ได้มีการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด เป็นการส่งออกทุกเดือนตั้งแต่ยังไม่มีปัญหาเรื่องชายแดน จนถึงวันนี้ ยังคงมียอดส่งออกปกติ ไม่ได้มียอดกระโดดสูงหรือมีบริมาณส่งออกมากจนผิดปกติ โดยสิ่งของที่ส่งออกตอนนี้ส่วนมากจะเป็นสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค เช่น น้ำผลไม้ นมถัวเหลือง เกลือ ซึ่งภาพที่ออกไปนั้นเป็นเมื่อวาน (6 มิ.ย. 68) จริงตนก็อยู่ในวันนั้นซึ่งเป็นภาพรายงานในแต่ละวันไม่รู้ว่าผู้สื่อข่าวนำมาจากแหล่งไหน โดยการส่งออกเกลือในวันนั้นมีไม่กิโลกรัมเองซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในการส่งออกในรอบวัน มีเพียงหนึ่งคันรถเท่านั้น และเป็นการซื้อขายส่งออกระหว่างภาคเอกชนตามปกติ ไม่ใช้ของทหารมาซื้อ หรือ ใครมาซื้อไปให้หทารแต่อย่างใด เพราะจริงๆแล้วห่างออกไปจากด่านถาวรช่องสะงำ ไม่ไกลจะมีตลาดขนาดใหญ่ คือ…

เกษตรกร อำเภอกันทรารมย์ และอำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ นำไก่บ้านที่นำไปเพาะพันธุ์ ออกลูกและเลี้ยงจนได้ขนาดตามความต้องการของตลาด มาขายให้กับพ่อค้า รับซื้อ – ส่งออกประเทศกัมพูชา ผ่านช่องจอมติดปราสาทตาเมือนธม ที่เหตุการณ์ปกติ วันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ ศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าการเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ บ้านอีต้อม ตำบลคำเนียม อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ ได้มีพี่น้องเกษตรกรจากอำเภอกันทรารมย์ และอำเภอน้ำเกลี้ยง กว่า 1,000 คน ที่เป็นลูกค้า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส.สาขากันทรารมย์ และธกส.สาขาน้ำเกลี้ยง ได้เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ และได้ผ่านการอบรม โครงการเลี้ยงไก่บ้าน และรับลูกไก่บ้านไปเลี้ยงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วันนี้แม่ไก่ที่นำไปเลี้ยง ได้ออกลูก และเกษตรกรก็ได้เลี้ยงลูกจนโต ได้น้ำหนัก หรือขนาดตามความต้องการ ของตลาด และได้นำมาจำหน่ายยังตลาดนัดซื้อขายไก่บ้าน เพื่อการส่งออก โดยความร่วมมือของปศุสัตว์อำเภอกันทรารมย์ เกษตรกรอำเภอกันทรารมย์ ในการติดตาม ดูแล ให้คำแนะนำ โดยไก่บ้านที่คัดมาจำหน่ายในวันนี้ ได้มีน้ำหนักตั้งแต่ 1.2 กิโลกรัม ไปจนถึง…