สมาชิกวุฒิสภา สว.อีสานใต้ พบประชาชน ชาวหมู่บ้านภูมิชรอล ตำบลเสาธงชัย จังหวัดศรีสะเกษ จุดพื้นที่เสี่ยง ภัยสงคราม ไทย – กัมพูชา เชิงเขาพระวิหาร เพื่อทราบสถานการณ์ชายแดน ปัญหา แนวทางแก้ไข ความต้องการ



วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่ ศาลาประชาคมบ้านภูมิชรอล ( อ่าน ภูม – สะ – รอน ) ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสุริยา บุตรจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, จ่าสิบเอก สมควร สิงห์คำ นายอำเภอกันทรลักษ์, นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงมะลู, ตำรวจตระเวนชายแดน, เจ้าที่ทหารกองกำลังสุรนารี ฉก.1, ชรบ. อส.ปกครองอำเภอกันทรลักษ์ กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ตำบลเสาธงชัย พร้อมด้วยพี่น้องประชาชน รวมกว่า 200 คน ให้การต้อนรับ พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ แสงเพชร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแนวชายแดนอีสานใต้, นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ สว.ศรีสะเกษ พร้อมกับ สว.จากจังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดสุรินทร์, จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะกลุ่ม สว.จากอำเภอน้ำยืน เพื่อมาร่วมพบปะ สอบถามถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดน จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี สอบถามปัญหา ความต้องการ ความปลอดภัย หากเกิดการยิงปะทะกัน ตอบข้อซักถาม เล่าประสบการณ์เล่าปัญหาแนวทางแก้ไขในช่วงนี้ พร้อมตรวจเยี่ยมดูหลุมหลบภัย ก่อนเดินทางไปดูสถานการณ์บนผามออีแดง ที่สามารถมองเห็นปราสาทพระวิหารได้อย่างชัดเจน จุดท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้ได้ปิดทำการ ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยว ขึ้นมาท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยวเอง





นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย นำเสนอต่อคณะ สว.ว่า ประชาชนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะหมู่บ้านภูมิชรอล มีประสบการณ์จากการสู้รบ ของทหารไทยกับทหารกัมพูชา มาโดยตลอด ในปี พ.ศ.2525 -2526 ประชาชนวิ่งหลบกระสุนปืนของเขมร 3 ฝ่ายแย่งชิงอำนาจกัน ต่อมาในปี พ.ศ.2554 เกิดการสู้รบกันระหว่างไทยไทย กับ ทหารกัมพูชา ในการชิงประสาทเขาพระวิหาร เดือนกุมภาพันธ์ 2554 ดังนั้นเหตุการณ์ปะทะกันที่ช่องบก ประชาชนที่เป็นด่านหน้า เราชินแล้ว แต่วันนี้เราไปหาเห็ดในป่าเชิงเขา เทือกเขาพนมดงรัก ไม่ได้ เพราะกัมพูชา อนุญาต และสนับสนุนให้ครอบครัวทหารกัมพูชา อนุญาตให้ประชาชนกัมพูชา เข้ามาสร้างกระท่อม สร้างบ้านเรือน อยู่อาศัยติดเขตป่าชายแดน และขยับเข้ามาเรื่อยๆ อันนี้ทหารต้องคุ้มครองเราด้วย
ซึ่ง พลตำรวจตรี ฉัตรวรรษ เปิดเผยว่า กรณีการประกาศของคนไทย ที่จะข้ามเข้าไปในฝั่งกัมพูชา และฝั่งกัมพูชาเข้ามาทั้งฝั่งไทย มีกำหนดระยะเวลาเพียง 7 วันนั้น ตามนโยบายของแต่ละประเทศ และของฝ่ายความมั่นคงของไทย อันนี้ต้องยอมรับว่ากระทบกับเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชน ตามแนวชายแดนแน่นอน เพราะการค้าตามแนวชายแดน แม้จะเป็นการค้าเรื่องเครื่องอุปโภคบริโภค แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ถ้าเกิดความไม่แน่ชัด ความไม่ชัดเจน ในการที่จะดำเนินการต่อไป ชาวบ้านจะอยู่ด้วยความหวาดระแวง เมื่อเกิดความหวาดระแวงขึ้นมา แม้กระทั่งจะประกอบอาชีพอะไร มันก็เกิดความไม่สะดวกใจ ไม่กล้าลงทุน ไม่กล้าที่จะทำอะไร แม้กระทั่งการจะออกไปเก็บเห็ดในพื้นที่ หรือหาของป่าในพื้นที่แนวชายแดน ชาวบ้านก็ยังไม่กล้าที่จะออกไป ด้วยเกรงว่าจะเกิดอันตราย ตนเชื่อว่าการประเมินสถานการณ์ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ที่กองทัพเป็นผู้กำหนด ไม่ว่าจะการปิดด่าน หรือการเปิดด่านชั่วคราวก็ตาม จำนวนวันจำนวนเวลาในการเปิดปิด เพื่อให้มีผลกระทบต่อประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะในธุรกิจสีเทา เรื่องการพนันตามเขตแนวชายแดน เราก็ต้องทำ





////////////////
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวไทม์นิวส์ / ศรีสะเกษ