แรงงานไทยตัดทุเรียนแทนแรงงานกัมพูชา

ผลกระทบจากแรงงานกัมพูชา หนีกลับบ้าน จากหวั่นเหตุปะทะ และหลังคลิปนายกคุยฮุนเซ็น โล้ง ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ เรียกแรงงานไทยจากจันทบุรี ทดแทน เพราะต้องเร่งส่งจีน และภูเขาที่สวย สะตาโสมเป็นของไทย

วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ที่ จังหวัดศรีสะเกษ ผลกระทบตามแนวชายแดน ระหว่างไทย – กัมพูชา ขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่คนไทยทั้งประเทศ ได้รับฟังคลิบเสียงที่พูดคุยกันระหว่าง นายกรัฐมนตรีของไทย กับนายฮุนเซ็น ประธานสภาฯ ของกัมพูชา โดยวลีเด็ดก็คือ “จะเอาอะไรหลานก็จะจัดให้” กับการพูดว่า “แม่ทัพภาคที่2 อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเรา” ทำให้ประชาชนคนไทยหมดความเชื่อมั่นกับการแก้ปัญหา ข้อพิพาทไทย – กัมพูชา โดยเฉพาะกับแรงงานคนกัมพูชา กับชาวสวนทุเรียนในเขตอำเภอกันทรลักษ์ ที่กำลังเร่งเก็บผลผลิต เพื่อส่งออกไปขายที่ประเทศจีน ที่โล้งได้มาตั้งจุดรับซื้อขึ้นตู้คอนเท็นเนอร์ ถึงที่ แต่วันนี้แรงงานกัมพูชา ที่เคยเป็นมือตัดทุกปี โล้งได้ให้กลับประเทศไปหมดแล้ว ซึ่งโล้งได้ประสานงานกับแรงงานไทย ที่เป็นมือตัดจากจังหวัดจันทบุรี จากจังหวัดตราด ยกทีมมาตัดกันถึงสวนที่ศรีสะเกษ แถมมีเทคนิคพิเศษ ตัดให้มีเสียงเหมือนปืนแก๊ป ไล่ชาวกัมพูชา เพราะวันนี้มาตัดที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ที่อำเภอกันทรลักษ์ ยืนยันปลอดภัย ท่องเที่ยวสวนได้ปกติ

นางโสพิน ศิวาโมกข์ เจ้าของโล้งกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เรามาซื้อที่นี่ศรีสะกษ เดิมจะมีต้นทุนในการส่งไปส่งออกฝั่งจังหวัดจันทรบุรี แต่วันนี้มีปัญหาแรงงาน มีปัญหาไทย- กัมพูชา เราก็เลยปิดโล้งที่จันทบุรี มาเปิดทำที่ศรีสะเกษเลย เพื่อเปิดแบรด์นทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ความอร่อยคนจีนจะได้กินความอร่อยโดยตรงสดๆ จากศรีสะเกษ ออกผ่านลาว ไปเวียดนาม สู่จีน ที่คุณหมิง ระยะทางใกล้กว่า ทุกอย่างดีขึ้น จากโล้งจ่ายค่าขนส่ง 10.-บาทต่อกิโลกรัม ขนจากศรีสะเกษ ไปจันทบุรี วันนี้เราจะก็มาเพิ่มให้ชาวสวน ชาวสวนก็จะได้ราคาทุเรียนสูงขึ้น ส่วนนักท่องเที่ยวไม่ต้องกลัวค่ะ วันนี้เรามาตัดทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ที่ติดกับภูเขาที่เขาจะรบกันเลย แต่เราไม่กลัว ซึ่งเมื่อวานก็คุยกับทหาร กรณีที่นายกไทยเรามีคลิบคุยกับฮุนเซน เราถามทหารดูว่าจะรบกันไหม ทหารบอกไม่มี ไม่รบ และก็ขอยืนยันกับนักท่องเที่ยวว่า ทหารยังไม่รบกันค่ะ มาเที่ยวสวนมทุเรียนภูเขาไฟ ส่วนการเมือง ไม่อยากพูดถึง “ทุกคนในประเทศน่าจะตัดสินใจได้ว่า นายกเราเป็นเช่นไร” (กรณีนี่ไม่ขอออกสื่อ)

ขณะเดียวกัน ภาพบรรยากาศก่อนหน้าที่จะเกิดการปะทะกัน และสั่งปิดการขึ้นไปท่องเที่ยว ที่บริเวณหน้าผามออีแดง เป็นภาพที่นักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก กับบรรยากาศ การชมตะวันขึ้นก่อนใครใน 3 แผ่นดิน คือ ไทย – กัมพูชา และลาว ที่สามารถมองเห็นหมอกที่สวยงาม ล้อมรอบยอดเขาสะตาโสม ซึ่งขณะนี้ทางผู้นำกัมพูชา กำลังเล็งที่จะบวกข้อพิพาท เข้าไปในการยื่นศาลโลก ว่าเป็นของกัมพูชา เพราะด้านล่าง ช่อเขาระหว่าง หน้าผามออีแดง กับเขาสะตาโสม กัมพูชา ได้ให้ทหาร และครอบครัว มาสร้างบ้านอยู่อาศัยกันแล้ว

//////////////

ภาพ/ข่าว ทีมข่าวไทม์นิวส์ / ศรีสะเกษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error: Content is protected !!