ชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ สั่งลดระดับเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนราษีไศล 7 บาน หลังพบว่า พายุวิภา มาไม่ถึงศรีสะเกษ หวั่นไม่มีน้ำใช้ถึงหน้าแล้ง พร้อมเฝ้ารอลุ้นฝนในเดือนกันยายน เพราะทุกปีเคยมีน้ำท่วมใหญ่ช่วงนี้



วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ เฝ้าติดตามการเคลื่อนตัวของ พายุ วิภา ที่มีความหวังว่าจะมีฝนตก เพื่อเติมน้ำลงมาในอ่างเก็บน้ำ ในจังหวัดศรีสะเกษ ทั้งอ่างเก็บน้ำที่อยู่เหนือจังหวัดศรีสะเกษ ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย – กัมพูชา และที่เหนือเขื่อนราษีไศล อำเภอราษีไศล, เขื่อนหัวนา อำเภอกันทรารมย์ แต่ปรากฏว่า จนวันนี้ พายุวิภา ได้ลดระดับลงเป็นดีเปรสชันแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา 2 – 3 วันนี้ ไม่มีฝนตกลงมาที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่อย่างใด ชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ทำการเฝ้าติดตาม การพยากรณ์อากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยา แบบเรียวไทม์ นาทีต่อนาที วันต่อวัน และล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ และเป็นเดือน วันนี้ประเมินว่า ฝนจะไม่มีตกในจังหวัดศรีสะเกษ อีกราว 2 เดือน จึงได้มีคำสั่งลดระดับการเปิดประตูระบายน้ำเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา ลดลง เพื่อการเก็บกักน้ำไว้ในอ่าง จะได้มีน้ำในอ่าง ไว้ใช้ทั่วถึงในช่วงหน้าแล้ง






นายจำรัส สวนจันทร์ ผอ.โครงการชลประทานศรีสะเกษ ชี้แจงกรณีที่ได้มีคำสั่งลดระดับการระบายน้ำ ที่เขื่อนราษีไศล ทั้ง 7 บานประตู ปรับลดลง เหลือเปิดเพียง 30 ซม. ว่า พายุวิภา ที่เข้ามาในประเทศไทย ปรากฏว่า ภาคอีสานตอนล่าง โดยเฉพาะศรีสะเกษ ไม่ได้ส่งผลกระทบมากเท่าใด และตอนนี้ได้ลดระดับลงเป็นพายุดีเปรสชัน แล้ว ซึ่งชลประทานจังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอดต่อเนื่อง โดยเฉพาะตามลุ่มน้ำ อ่างเก็บน้ำในจังหวัดศรีสะเกษ พบว่ายังมีศักยภาพที่จะรับปริมาณน้ำได้อีก ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บ เพียง 61% ขณะที่ในลุ่มน้ำมูล ของเขื่อนราษีไศล และเขื่อนหัวนา มีปริมาณน้ำกักเก็บตอนนี้เพียง 57% โดยที่เขื่อนราศีไศล ที่มี 7 ช่องบานประตู เราเปิด ทั้ง 7 ช่อง แต่ลดระดับการเปิดบานประตูเหลือเพียง 30 เซนติเมตร เพื่อรักษาระบบนิเวชวิทยาฯ ด้านหน้าเขื่อนด้วย ส่วนที่เขื่อนหัวนา ที่มีประตูเขื่อน 14 ช่องบาย เราเปิดระดับ 1 เมตร 6 ช่องบาย และปิดสนิท 8 ช่องบาน ถ้าเราเปิดระบายน้ำออกทั้งหมดทุกบาน เราก็จะเก็บกักน้ำได้น้อยลง ซึ่งหากเกิดฝนทิ้งช่วง เพราะปีนี้ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าทุกปี หากเทียบกับปีที่แล้ว ปี 2567 มีปริมาณน้ำฝนตกมา 1,700 กว่ามิลลิเมตร แต่ในปีนี้มีฝนตกมาถึงวันนี้ เพียง 650 มิลลิเมตรเท่านั้นเอง ซึ่งในปีนี้เรื่องน้ำท่วมฉับพลันไม่น่ามีปัญหาเหมือนปีที่ผ่านมา แต่เรื่องภัยแล้ง เราต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ว่าจะเก็บน้ำไว้อย่างไร ที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกร ต่อประชาชน น้อยที่สุด ซึ่งทุกปีน้ำจะท่วมในราวเดือนกันยายน ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ต่อไป



/////////////////////////
ภาพ/ข่าว Timenews เวลาข่าว เวลาคุณ / ศรีสะเกษ