ผู้รับเหมาก่อสร้างสะพานข้ามลำห้วยสำราญ มูลค่า 10 ล้านบาท ตรงสะพานท่าเรือ ที่มีตำนานอันน่าสะพรึงกลัว ขณะรถเครนตอกเสาเข็มทำงาน เกิดหัก พัง คนงานที่นอนแคมป์ ฝันร้าย สาวสวยมาเข้าฝัน ก่อนตัดสินใจทำพิธีขอขมา บวงสรวง ชาวบ้านเตือน หวั่นสะพานไม่เสร็จทันฤดูฝน
วันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ สะพานท่าเรือ จุดข้ามลำห้วยสำราญ ชุมชนสนามเป้า ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งสะพานเดิมสร้างมาตั้งแต่ ปีพ.ศ.2526 มีสภาพที่เก่า ชำรุด วันนี้ได้ถูกรื้อออกไป เพื่อจัดสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ทดแทน ตามงบประมาณของแขวงทางหลวงชนบทศรีสะเกษ มูลค่าก่อสร้าง 10 ล้านบาท แต่ต้องประสบปัญหามากมายหลายเรื่อง โดยก่อนหน้านี้ บริษัทผู้รับเหมาที่รับเหมา ได้ทำรื้อถอน แล้วทำการตอกเสาเข็ม แต่ปรากฏว่า ตอกไม่เข้า แม้ว่าพื้นดินที่อยู่ในลำห้วยสำราญ จะเป็นเพียงดินทราย แต่เสาเข็มที่ตอกกลับตอกไม่ลง เพราะพบว่าข้างล่างเป็นชั้นหินหนา จำต้องใช้เครื่องขุดเจาะ ซึ่งรถเครนขณะที่กำลังขุดเจาะ เพื่อลงเสาเข็ม อยู่ๆ รถเครนก็เกิดหักพัง ตกลงไปในลำห้วย ต้องระดมรถมายกรถเครนขึ้น ชาวบ้านที่อาศัยสัญจรเส้นทางนี้ ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก เชื่อมระหว่าง อำเภอเมืองศรีสะเกษ ไป อำเภอยางชุมน้อย และตลาดนัดหอมแดง ตรงตลาดท่าเรือ ที่จะต้องใช้เส้นทางนี้ขนส่งสินค้าผ่านไปมา วันนี้ต้องเปิดเส้นทางเบี่ยง อ้อมลงไปในลำห้วยสำราญ ทุกคนก็หวั่นว่า หากสะพานเสร็จไม่ทันก่อนฤดูฝน ที่มีน้ำจำนวนมากไหลผ่านลำห้วยสำราญนี้ อะไรจะเกิดขึ้น เพราะลำห้วยนี้ตรงมาจากชายแดน เทือกเขาพนมดงรัก ทิศเหนือของจังหวัด น้ำไหลลงสู่ลำห้วยสำราญ ที่มีความยาวของสายน้ำมากกว่า 700 กิโลเมตร จะทำอย่างไร หากสะพานสร้างต่อไม่ได้ สุดท้ายวันนี้ ผู้รับเหมาเชื่อเสียงชาวบ้าน ที่ว่า “เจ้าที่แรง ต้องบวงสรวง ขอขมา” จึงได้นิมนต์พระอาจารย์บุญหนุน ที่เก่งทางไสยเวท มาประกอบพิธีเซ่นไหว้ บวงสรวง ขอขมาเจ้าที่ ขอเปิดทางให้ทำงานสร้างสะพาน ได้สะดวก ให้เสร็จทันตามสัญญา ที่ระบุไว้ ภายใน 30 มิถุนายน 2568 ขณะที่คนงานมาบอกว่า เมื่อ 2 วัน ก่อนที่รถเครนจะหักพัง ได้ฝันว่ามีสาวสวย มาเข้าฝัน บอกให้ทำพิธี และทำความสะอาดศาล ที่อยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ ให้ด้วย
คุณยาย ทองจันทร์ แสงประยูร อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่ตรงคอสะพานท่าเรือ ชุมชนสนามเป้า เทศบาลเมืองศรีสะเกษ หมู่ที่ 9 ตำบลโพธิ์ เปิดเผยว่า ตนปลูกบ้านอาศัยอยู่ตรงคอสะพานท่าเรือแห่งนี้มาตั้งแต่สมัยพ่อแม่ กว่า 60 ปีแล้ว และทุกคนก็เชื่อว่า ที่นี่มีเจ้าที่ดูแลความปลอดภัย แต่การรื้อสะพานท่าเรือ ที่สร้างมาเป็นระยะเวลายาวนาน ไม่เห็นมีใครมาตั้งพิธีขอขมา ขอรื้อถอนแต่อย่างใด จึงเชื่อว่า การที่รถเครนตกลงไป หักพัง นั้น เป็นเพราะเจ้าที่กระทำ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ การทำสะพานท่าเรืออาจไม่เสร็จทันฤดูฝน ที่มีน้ำหลากมาเป็นจำนวนมาก ก็จะต้องลำบากกันทุกคน เพราะทุกปีน้ำจะขึ้นมาถึงขอบฝั่ง หรือติดขอบประตูบ้านตนเองเลย ส่วนด้านนายหมู คนงานที่มานอนเฝ้าวัสดุที่แคมป์ เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นคนงานของบริษัทฯ ที่มาทำงานสร้างสะพานท่าเรือแห่งนี้ มาอยู่หลายเดือนแล้ว และเมื่อ 2 วันที่แล้วตนได้ฝันว่ามีผู้หญิงสวย แต่งกายปกติ มาบอกตนว่า ให้มาทำพิธีขอขมา ที่มารื้อถอนสะพานโดยไม่บอกกล่าว พร้อมบอกให้ไปบอกเจ้านายตน และให้ไปทำความสะอาดศาลที่อยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ ที่อยู่ตรงคอสะพาน นี้ให้ด้วย
ซึ่ง นายสันต์มนัต สมัครนิล หัวหน้าคนงาน บ.สุรินทร์อมรวัฒน์ จำกัด กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รถเครนที่ตนสั่งลูกน้องลงไปขุดเจาะเพื่อตอกเสาเข็มอยู่ๆ ก็ได้หักพัง สลิงขาด ตกลงไปในลำห้วย แม้จะไม่มีน้ำแต่ก็เต็มไปด้วยทราย แต่ใต้ทรายกลับเป็นแผ่นหินใหญ่ เจาะเสาเข็มก็ไม่ได้ จนรถเครนหักพัง ชาวบ้านแถวนี้ ก็มาบอกว่า ที่นี่เจ้าที่แรง การรื้อถอนสะพานท่าเรือ ไม่ได้มีพิธีเซ่นไหว้ ไม่ได้ขอขมาบอกกล่าว ตนก็เชื่อชาวบ้าน เลยกราบนิมนต์พระมาทำพิธีให้ในวันนี้ ก็เชื่อว่า จากนี้ก็จะสามารถทำงานต่อได้ และสามารถสร้างสะพานให้แล้วเสร็จภายในกำหนด คือ 30 มิถุนายน 2568 นี้ ก่อนที่ฝน ก่อนที่น้ำจะมาเต็มลำห้วยสำราญ สาธุ
/////////////////////////
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวไทม์นิวส์ / ศรีสะเกษ
