ชาวบ้านจากเมืองปากเซ สปป.ลาว ร่วมกับ ชาวบ้านจอม ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมสืบสานประเพณี แห่ข้าวพันก้อน ถวายองค์หลวงพ่อโต ที่สร้างหันหน้าไปทางทิศตะวันตก 1 ใน 3 องค์ของไทย วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 วันวิสาขบูชา ที่ วัดจอมพระ ตำบลบึงบอน อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีพี่น้องประชาชน ที่เดินทางมาจากเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว ภายใต้แนวคิด “ยามบ้านอ้าย เยือนบ้านน้อง” เพื่อมาร่วมประเพณี “แห่ข้าวพันก้อน ขอพรองค์หลวงพ่อโต และสักการะสุวรรณมาลิกเจดีย์” ซึ่งข้าวพันก้อน ก็คือ การนำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้ว มาปั้นเป็นก้อนเล็กๆ เท่าหัวแม่มือ ประดับ ตบแต่ง เป็นดอกไม้ หรือพานบายศรี ร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวบ้านจอมพระ ชาวตำบลบึงบอน…

เชิญเที่ยวสวนส้มโอศรีสะเกษ ที่บ้านตาด อำเภอเมืองจันทร์ ทิปทัวร์สวน 450 ไร่ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่ไม่ใช้แค่ชิมส้มโอสด ยังมียำส้มโอ, ขนมเปี๊ยะเปลือกส้มโอ, ยาหม่องส้มโอ ยาดมสมุนไพรส้มโอ    วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ภูมิใจนำเสนอ สวนส้มโอบ้านตาด ตำบลตาโกน อำเภอเมืองจันทร์ ในการนำทัวร์สวนส้มโอ กว่า 450 ไร่ และกำลังปลูกเพิ่ม ขยายเพิ่ม ตามความต้องการของตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้แหล่งชุมชนท่องเที่ยวบ้านตาด อำเภอเมืองจันทร์ ที่ผลิตส้มโอ ของจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 3,000 ไร่ เป็นการส่งเสริมวิสาหกิจของชุมชน ตามตัวบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ผลผลิตตามความต้องการของตลาด จากที่เกษตรกรไปเที่ยวภาคกลาง แล้วซื้อส้มโอมาเพาะ มาทดลองปลูก 1 ต้น ก่อนที่พัฒนาแยกสายพันธุ์ จนปัจจุบันนี้ มีส้มโอที่บ้านตาด จำนวน 7 สายพันธุ์ คือ พันธ์ขาวน้ำผึ้ง, พันธ์ทับทิมสยาม, พันธุ์ทองดี, พันธุ์ขาวแตงกวา, พันธุ์ขาวใหญ่…

ชาวบ้านจากตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ นำเครื่องเซ่นไหว้ เดินเท้าแห่มาถวายขอพร ก่อนลงทำนา แก่บรรพบุรุษ ณ กู่สมบูรณ์ บูชาคุณยอดแก้ว คาราวะอุโบสถ์เรือรบหลวง วัดป่าเนรัญชรา สืบวัฒนธรรมทุกปี บ่ายของวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ วัดป่าเนรัญชรา กู่สมบูรณ์ ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ ชาวบ้านทุกหมู่บ้านในตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ ร่วมนักท่องเที่ยว ได้ร่วมแห่อัญเชิญเครื่องเซ่นไหว้ ผลหมาก รากไม้ อาหารคาวหวาน พานบายศรีบูชา จากหมู่บ้าน เดินเท้าเข้ามาสู่บริเวณวัด ด้านหน้าปราสาทกู่สมบูรณ์ ที่อยู่ในความดูแลของกรมศิลปกร โดยปราสาทกู่สมบูรณ์แห่งนี้ เป็นศาสนาสถานแบบปราสาทหินสมัยปาปวน ที่มีอายุมากกว่า 1 พันปี ย้อนไปในอดีตถึงสมัยพุทธกาล ในพุทธศตวรรษที่ 16 เชื่อมโยงเส้นทางเดินทัพของขอม กับ ปราสาทวัดสระกำแพงใหญ่ และปราสาทวัดสระกำแพงน้อย อโรคยาศาล สมัยขอมเรืองอำนาจ ทุกปีประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแถบนี้ จะนำเครื่องเซ่นไหว้มาถวาย บูชาบรรพบุรุษ ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูทำนา ขณะเดียวกัน ที่วัดป่าเนรัญชรา…

คุณแม่ สส.ประธานเปิดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ อบต.สะพุง อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ ขบวนฟ้อนรำอ่อนช้อย สวยงาม แข่งขันกันทั้งวัน แม้จะมีเพียง 6 หมู่บ้าน แต่จัดได้ยิ่งใหญ่ จึงจัดต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี บ่ายของวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ที่ วัดบ้านสะพุง อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ องค์การบริหารส่วนตำบลสะพุง โดย นายโยธิน มุลกะกุล นายก อบต.สะพุง พร้อมด้วยรองนายกฯ ปลัด อบต.สะพุง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ร่วมกับ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 6 หมู่บ้าน ได้ร่วมกันจัดงานสืบสานประเพณี วัฒนธรรม งานบุญบั้งไฟ ประจำปี พ.ศ.2568 โดยมีการจัดขบวนฟ้อนรำของสาวงามประจำหมู่บ้าน ออกหน้าขบวนรถที่ตบแต่งเป็นขบวนบั้งไฟเอ้งาม หลากหลายนสีสันตามความเชื่อ ที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับพญาแถน ที่อยู่บนสวรรค์ ให้ได้รับความสุข ความพอใจ เพื่อที่จะได้สั่งการให้ฝนตกลงมายังพื้นดิน เพื่อพี่น้องเกษตรกรชาวนา จะได้มีน้ำทำนาข้าว…

ครุน้อยบ้านสะอาง จังหวัดศรีสะเกษ ที่มีแห่งเดียวในโลกที่ทำ วันนี้ยังได้รับความนิยมเป็นอันมาก ได้ปรับปรุงเป็นเครื่องประดับ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น สั่งตลอดทั้งปี แต่ขาดแรงงานที่มีคุณภาพ รับสอนฟรี วันที่ 30 เมษายน 2568 ที่ หมู่บ้านสะอาง ตำบลใจดี อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ อันเป็นที่รู้จักกันในนาม หมู่บ้านครุน้อย ที่มีขนาดจิ๋ว จิ๋วเท่ากับเล็บนิ้วก้อย ทำมาจากไม้ไผ่ นำมาสานให้เป็นครุน้อย ขนาดที่เล็กที่สุด เล็กจนสามารถนำไปเป็นต่างหูได้ กับงานฝีมือที่ได้มีการสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ตายาย กว่า 100 ปี ซึ่งเมื่อสมัยก่อนที่ยังมีการหวงวิชา ไม่อยากจะให้ลูกหลานทำ แต่ด้วยความรัก คุณยายเจ้าของครุน้อยในสมัยนี้ ได้แอบไปเล่นบ้านยายทวด คนข้างบ้าน ในช่วงวันหยุดเรียน วันเสาร์ วันอาทิตย์ ได้แอบเรียนรู้ นับตั้งแต่การเหลาไม้ไผ่ให้เป็นเส้นที่เล็กๆ ก่อนนำมาสานให้เป็นครุน้อยขนาดเล็ก จนทุกวันนี้ได้มีการสานแบบสลับสี จากไม้ไผ่ที่นำไปย้อมสี และนำมาทาแลกเกอร์ เพื่อป้องกันมอดกินไม้ไผ่ และนำมาพัฒนาให้เป็นเครื่องประดับ เป็นแนวแฟชั่น แทนที่จะใช้ในการตักน้ำดื่ม น้ำใช้ ในครัวเรือน เหมือนสมัยก่อน สุดท้ายพอมาทำเป็นเครื่องประดับ…

ชนเผ่าเยอตำบลโพนค้อ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกันสืบสานงานบุญประเพณี แห่บั้งไฟ ถวายพญาแถน และพระยากตะศิลา บรรพบุรุษของตน ที่นำพามาตั้งรกราก ตั้งหมู่บ้านอยู่อาศัย ในดินแดนอันอุดมสมบูรณ์นี้   บ่ายของวันที่ 28 เมษายน 2568 ชาวบ้านในเขตตำบลโพนค้อ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ที่สืบเชื้อสายมาจากชนเผ่าเยอจากอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ลูกหลานพญากตะศิลา ได้ร่วมกันจัดขบวนแห่ประเพณีบุญบั้งไฟชนเผ่นเยอ เพื่อบวงสรวง ไหว้บูชาพญาแถน เพื่อที่จะทำไร่ ไถนา ก็จะต้องนำบั้งไฟมาแห่ มาจุดถวาย จัดขบวนสาวงามตามประเพณี ที่เป็นการละเล่นให้สนุกสนาน เป็นที่พอใจของพญาแถน เพื่อที่จะได้ประทานฝนให้ตกลงมายังท้องนา ตามฤดูกาล มีน้ำในการทำนาข้าว เพราะเป็นการทำนาข้าว นาน้ำฝน ที่เชื่อว่าพญาแถนเป็นผู้ประทานน้ำฝนลงมาให้ ซึ่งที่ตำบลโพนค้อ เป็นตำบลเดียวที่เป็นชนเผ่าเยอ ที่อพยพมาจากอำเภอราษีไศล และยังยึดถือประเพณี ไหว้บูชาพญาแถน พร้อมกับ พระยากตะศิลา ที่เป็นบรรพบุรุษของชนเผ่าเยอของตนด้วย โดยทั้ง 6 ชุมชน ตำบลโพนค้อ ได้จัดขบวนแห่ ตามความเชื่อ พร้อมจัดนางรำเดินจากสามแยกกลางหมู่บ้าน ในตำบลโพนค้อ ผ่านหน้าวัดบ้านโพนค้อ…

จังหวัดศรีสะเกษ ที่อำเภอปรางค์กู่ จัดแข่งขันทำอาหาร 3 เมนูที่ขึ้นชื่อของจังหวัด กับรสชาติที่หายไป คือ ระแวกะตาม, แกงขี้เหล็กใส่ไข่มดแดง และขนมหวานลูกตาล จากต้นตาลพ่อดาบวิชัย คนบ้าปลูกต้นไม้กว่า 3 ล้านต้น บ่ายของวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ หน้าที่ว่าการอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอปรางค์กู่ ร่วมกับพัฒนาการอำเภอ, กศน. และปกครองอำเภอปรางค์กู่ จัดการแข่งขันทำเมนูอาหารพื้นถิ่น โดยการประชุมคัดเลือกได้ทำอาหาร 3 เมนู ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดศรีสะเกษ และกำลังจะหายไป คือ ระแวกะตาม หรือแกงอ่อมปูนา ใส่ผักสวนครัว จากทุ่งนาในเขตอำเภอปรางค์กู่ เท่านั้น และเมนูที่ 2 คือ แกงขี้เหล็ก ใส่ไข่มดแดง และจะต้องเป็นขี้เหล็กที่เก็บจากต้นขี้เหล็ก ในเขตอำเภอปรางค์กู่ ไข่มดแดงก็จะต้องไปแย่มาจากต้นไม้ที่อยู่เขตอำเภอปรางค์กู่ และเมนูสุดท้าย เป็นขนมหวาน ที่ทำจากลูกตาล ที่มาจากต้นตาล ที่พ่อดาบวิชัย สรุยุทธ ปลูกไว้เมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา จนได้รับการขนานนามว่า…

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานสมโภชน์ศาลหลักเมืองอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ที่เป็นเมืองรอง เมืองน่าเที่ยว ระบุนโยบายใหม่ออกมา ในการส่งเสริมไทยเที่ยวไทย จะมีคนมาศรีสะเกษ   วันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ ศาลหลักเมืองอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในการประกอบพิธีบวงสรวง ศาลหลักเมืองอำเภอปรางค์กู่ โดยมี นายสุวรรณ เนตรเนติกุล นายอำเภอปรางค์กู่ ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ในอำเภอปรางค์กู่, สภาวัฒนธรรมอำเภอปรางค์กู่ หน่วยงานภาครัฐ – เอกชน องค์กรปกครองส่วนที่ – ท้องถิ่น และกลุ่มแม่บ้านอำเภอปรางค์กู่ โดยผู้ว่าฯ นำถวาย บวงสรวง เครื่องเซ่นไหว้ พ่อพราหมณ์ร่ายพระเวทอัญเชิญเทพเทวา มาอวยพรให้ทุกคนที่มาร่วมงาน และไม่ได้มาร่วมงาน อยู่เย็นเป็นสุข และเป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอันมาก ขณะกำลังจะเริ่มพิธี ได้มีฝนตกหนักลงมาบริเวณศาลหลักเมือง นาน 15 นาที จากนั้นก็หยุดตกทันที ซึ่งเป็นช่วงจะเริ่มพิธีพอดี จากนั้นได้ให้การต้อนรับ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา…