งานประเพณีบุญบั้งไฟตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ สาวงามจากทุกหมู่บ้านร่วมสร้างสรรค์ ในการสืบสานประเพณีอันดีงาม โดยเฉพาะรำกลองตุ้มของกลุ่มผู้สูงวัย เป็นแบบอย่างของความสามัคคีในชุมชน
วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ขบวนแห่บั้งไฟเอ้งาม ของชาวตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีสาวงามจากทุกหมู่บ้าน พร้อมใจกันมาร่วมร่ายรำ นำขบวนบั้งไฟเอ้งาม หลากหลายสีสัน 1 ปี มี 1 ครั้ง ในการสืบสานประเพณี – วัฒนธรรมของชุมชน ในการจัดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟตำบลเขิน เพื่อขอฝนให้ตกต้องลงมายังพื้นดิน เพื่อที่ชาวไร่ชาวนา จะได้มีน้ำในการทำนาปี ในการทำการเกษตรประจำปีการผลิต พร้อมเป็นการส่งเสริมงานบุญประเพณีบุญบั้งไฟ สืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นอันดีงามของไทย พร้อมให้ชุมชนได้ทำกิจกรรม ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีกัน และสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับเกษตรกรในการทำการเกษตรในปีนี้ โดย นายสมพงษ์ จันทร์เพชร นายก อบต.เขิน ร่วมกับผู้นำท้องที่ – ท้องถิ่น กำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน จัดขึ้น มี นายศดิศ ณิชกุล นายอำเภอน้ำเกลี้ยง เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมชมการประกวดขบวนแห่ ฟ้อนรำ
โดย นายสมพงษ์ จันทร์เพชร นายก อบต.เขิน กล่าวว่า ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสาน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “บุญเดือนหก” เป็นหนึ่งในฮีตสิบสอง คลองสิบสี่ ของชาวอีสาน เป็นช่วงฤดูฝน เข้าสู่การทำนา ตกกล้า หว่าน ไถ เพื่อเป็นการบูชาแถน ขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เหมือนกับการแห่นางแมว ของคนภาคกลาง โดยมีตำนานมาจากนิทานพื้นบ้านของภาคอีสาน เรื่องผาแดงนางไอ่ ซึ่งในนิทานพื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง การที่ชาวบ้าน ได้จัดงานบุญบั้งไฟ ขึ้นเพื่อเป็นการบูชา พระยาแถน หรือ เทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่งชาวบ้าน มีความเชื่อว่า พระยาแถน มีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และมีความชื่นชอบบั้งไฟ เป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดทำการจัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล และอาจก่อให้เกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้านได้ ซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ เดือนหก หรือพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน ของทุกปี จึงทำให้ชาวอีสานจัดทำบั้งไฟทุกปี เพื่อเตือนพญาแถน ประเพณีบุญบั้งไฟ จึงได้ยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลา หลายชั่วอายุคน และมีความสำคัญมายาวนานมาจนถึงปัจจุบัน ประเพณีบุญบังไฟ ขององค์การบริหารส่วนตำบลเขิน ได้กำหนดจัดขึ้นเป็นประจำ และในปีนี้ก็ได้จัดอย่างยิ่งใหญ่ ทุกหมู่บ้าน ชุมชน มีส่วนร่วมด้วยกัน
/////////////////
ภาพ / ข่าว ทีมข่าวไทม์นิวส์ ศรีสะเกษ
