รมว.อว.และ ผช.รมต.เยี่ยมชมระบบข้อมูล “สุขเสมอกันที่ศรีสะเกษ” จากการสานพลังความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ กับ พลังภาคีเครือข่ายในพื้นที่ มีหน่วย บพท.สนับสนุนทุนวิจัย
วันที่ 20 มีนาคม 2568 พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ใน 2 อำเภอ นางสาว ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. พร้อมด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวง อว. เดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจติดตามผลงานวิจัย แก้ไขปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ “มหกรรมแก้จน คนของพระราชา” ที่เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันของมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ กับหน่วยบริหาร และจัดการทุนเพื่อการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ในสังกัดกระทรวง อว. โดยจุดแรก ที่โดมใหญ่ของโรงเรียนกำแพง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นางสาว ชนมณัฐ รอดบุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ, รองศาสตราจารย์ ดร.ประกาศิต อานุภาพแสนยากร อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ, ผช.ศาสตราจารย์ ดร.ประจวบ จันทร์หมื่น ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนา, นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ สส.ศรีสะเกษ เขต 8 พรรคเพื่อไทย, นายมงคลพัฒน์ สรรณ์ไตรภพ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายพศิน ทาศิริ นายอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมด้วย นายกเทศบาล – เทศบาลตำบล พี่น้องประชาชน ชาวอำเภออุทุมพรพิสัย กว่า 1 พันคน ร่วมให้การต้อนรับ
โดย นางสาว ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า วันนี้ มีความประทับใจกับการประสานพลังกันของสถาบันความรู้ ที่เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว.ทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ และหน่วย บพท.ที่ให้การสนับสนุนทุนวิจัย เพื่อพัฒนาชุดความรู้สำหรับแก้ปัญหาความยากจนให้เป็นไปด้วยความเบ็ดเสร็จ แม่นยำ และยั่งยืน บนความร่วมมือกันของภาคีทุกภาคส่วนในพื้นที่ และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่การบูรณาการทำงานร่วมกันของสถาบันความรู้ และหน่วย บพท.ร่วมกับภาคีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาสังคมในพื้นที่ ทำให้เกิดระบบข้อมูลครัวเรือนยากจนของจังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้ชื่อ “สุขเสมอกันที่ศรีสะเกษ” หรือ “Sisaket Equity System-SES” ซึ่งเป็นชื่อที่มีความหมายดีมาก ด้วยการทำงานร่วมกันนี้ ทำให้เรามีแผนการในการพัฒนาโครงการที่เน้นการสร้างทักษะอาชีพและผลักดันให้เข้าถึงสวัสดิการที่ควรจะได้รับ เพื่อจัดการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำ คือ การใช้ระบบข้อมูลครัวเรือนความยากจนกลาง “สุขเสมอกันที่ศรีสะเกษ (SES)” เป็นระบบที่จะสอบทานและ “นำคนจนตกหล่นเข้าสู่ระบบ”
ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ นางสาว ศุภมาส รมว.อว.ทำให้ทราบว่าระบบข้อมูลสุขเสมอกันที่ศรีสะเกษ ยังถูกใช้เป็นเหมือน”สารตั้งต้น” ในการออกแบบโมเดลแก้จน ตลอดจนพัฒนานวัตกรรม สำหรับแก้ปัญหาความยากจนที่มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิต และบริบทพื้นที่ อย่างเช่นโมเดลผักปลอดภัย และนวัตกรรมการแปรรูปถั่วเหลืองเป็นอาหารมังสะวิรัติ เพื่อสุขภาพ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ และยกระดับรายได้แก่ครัวเรือนยากจนให้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยเดือนละ 3,000 บาท อีกทั้งยังทำให้เกิดการรวมตัวเป็นเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เชื่อมโยงสมาชิกจากหลากหลายตำบล ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง มีขีดความสามารถพึ่งพาตัวเองได้
จากนั้นคณะได้เดินทางไปที่เทศบาลตำบลน้ำคำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ โดยได้พบกับ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกว่ากระทรวงศึกษาธิการ และคณะอาจารย์จากมหาวิทยาราชภัฎศรีสะเกษ, มหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดอุบลราชธานี และผู้แทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ที่ได้นำเสนอข้อมูลนวตกรรม งานวิจัย โดยทั้ง 2 อำเภอ ได้เน้นไปที่การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และน้ำมีปริมาณที่มากในฤดูฝน จนทำให้บางปีเกิดน้ำท่วมใหญ่ในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ โดยเฉพาะในเขตตำบลน้ำคำ สร้างผลกระทบทำให้พี่น้องประชาชน เกิดความยากจนกระจาย และยาวนาน มีหนี้สินพอกพูล สะสมนานปี ซึ่งทุกคนหวัง และเชื่อว่า งานวิจัยจากคณะอาจารย์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จำสงผลให้สามารถหาหนทางออก ในการแก้จนได้จริง จึงมีการส่งต่อนวัตกรรมและเทคโนโลยี “โมเดลแก้จน” เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ เช่น โมเดลผักปลอดภัย และนวัตกรรมการแปรรูปถั่วเหลือง ที่ช่วยเหลือครัวเรือนยากจนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 3,000 บาท/เดือน ก่อให้เกิดเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่เชื่อมโยงสมาชิกจากหลากหลายตำบล สร้างความเข้มแข็งและส่งเสริมความเสมอภาคในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ ด้วยการขับเคลื่อนกองทุนสวัสดิการเพื่อครัวเรือนคนจนในหลายประเด็น เช่น การผลักดันให้ครัวเรือนกลุ่มสงเคราะห์เข้าสู่กลไกกองทุนระดับตำบลเพื่อเข้าถึงสวัสดิการ และส่งต่อความช่วยเหลือให้กับเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการช่วยเหลือครัวเรือนที่มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ
โดยช่วงบ่าย ที่สำนักงานเทศบาลตำบลน้ำคำ นางสาว ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว.ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเพิ่มอีกด้วย ว่า ที่ จังหวัดศรีสะเกษ เราก็มีกำลังหลัก ก็คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ ผลงานเมื่อมีการวิจัยออกมาแล้ว ในการแก้ไขปัญหา ก็จะต้องมีทุน เพราะฉะนั้น กระทรวง อว. ของเรามีหน่วยงาน ที่ดูแลรับผิดชอบเบ็ดเสร็จ ครบวงจร ซึ่งเราจะเน้นสนับสนุนประชาชนทั่วไป ให้เป็นผู้ประกอบการรายเล็ก แล้วจากรายเล็ก เราก็จะสนับสนุนให้เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ ความหมายก็คือ ท่านมีแต่ตัว เดินมาหาเรา หรือท่านมีแต่ตัวพร้อมไอเดีย หรือท่านมีแต่ตัว มาพร้อมกับวัตถุดิบของท่าน หรือมาพร้อมกับธุรกิจเล็กๆ ของท่าน หรือมาพร้อมกับความฝันของท่าน โดยมาที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ภูมิภาค หรือมาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เราจะพาท่านไปเติมเต็มในจุดที่ท่านขาด โดยเราจะให้ความช่วยเหลือ ตั้งแต่การสอน การทำทุกอย่าง จนสุดท้ายก็คือ การหาตลาดให้ท่าน วันนี้ อว.เราพร้อมดูแลท่านแบบครบวงจร
///////////////////////////
ภาพ/ข่าว ทีมข่าว Timenews / ศรีสะเกษ
